ประวัติของ AIR JORDAN



homepage


ประวัติของ AIR JORDAN




ยอดขายรองเท้า Air Jordan หลายร้อยถึงหลายพันล้านเหรียญในแต่ละปีตั้งแต่เริ่มผลิตรุ่นแรกออกมา และยังขายดีจนแซงหน้ารองเท้าจาก Nike เองด้วยซ้ำไป
กระแสความนิยมของ Air Jordan นั้นเกินระดับคำว่า “คลั่งไคล้” ไปแล้ว เพราะเป็นรองเท้าที่มักจะขายหมดเกลี้ยงภายในเวลาอันรวดเร็วเหลือเชื่อ และขายต่อกันในราคาที่สูงกว่าราคา retail หลายเท่าตัว แทรกซึมอยูในวิถีชีวิตประจำวันของผู้คนและ street culture ทุกอณู มีแฟนคลับทั่วโลก จนหลายครั้งก่อให้เกิดการแย่งชิง การทะเลาะวิวาท การทำร้ายร่างกาย การก่อจลาจล ไปจนถึงฆาตกรรม ต้นเหตุเพียงเพราะรองเท้าแค่คู่เดียว

ทั้งหมดนี้มาจากนักบาสเกตบอลผู้เป็นสุดยอดแรงบันดาลใจและตำนานแห่ง NBA ชื่อว่า Michael Jordan ที่ภายหลังผันตัวมาเป็นเจ้าของและดูแล Jordan Brand ด้วยตนเอ





MJ เผยว่า เดิมทีเขาเป็นแฟนรองเท้า Adidas ตัวยง และสมัยเรียนที่ North Carolina โค้ชก็ให้เขาใส่แต่ Conveลังจากนั้นสายการผลิตรองเท้า Air Jordan ที่ sneakerhead ทั่วโลกต่างใฝ่ฝันจะครอบครองก็เริ่มขึ้นrse ลงแข่งบาสฯ ทว่า ด้วยฝีมือที่โดดเด่นเกินวัย จึงเกิดการช่วงชิงตัวพรีเซนเตอร์รองเท้า signature รุ่นใหม่กันระหว่าง Adidas, Converse, และ Nike ตอนที่เจ้าตัวกำลังจะก้าวสู่ NBA แม้ว่า MJ จะชื่นชอบ Adidas มาก แต่ฝ่ายหลังยื่นข้อเสนอที่น่าดึงดูดใจกว่า ทั้งยังมีแผนการตลาดที่ดีกว่า MJ จึงตัดสินใจเลือก Nike ในที่สุด หลังจากนั้นสายการผลิตรองเท้า Air Jordan ที่ sneakerhead ทั่วโลกต่างใฝ่ฝันจะครอบครองก็เริ่มขึ้น





  1. Air Jordan  I
    • ปีที่วางจำหน่าย 1985
    • ราคา $65
    • ออกแบบโดย Peter Moore
    • สียอดฮิต Black/Red(Bred), Black/Royal(Royal Blue), Black Toe, Chicago


ตำนานของ Air Jordan เริ่มต้นขึ้นเมื่อ Nike ได้เซ็นสัญญาสปอนเซอร์กับนักบาสเกตบอลหน้าใหม่ของ NBA ในตอนนั้นอย่าง Michael Jordan และออกแบบ Air Jordan I สีดำ/แดงขึ้นมาให้เขาใส่ลงแข่งในปี 1984 ซึ่งเป็นโทนสีที่เข้ากับสียูนิฟอร์มของ Chicago Bulls พอดี แต่ MJ เองไม่ค่อยชอบนักเพราะมันเป็นสีที่ “ดูเหมือนรองเท้าปีศาจ” ทั้งนี้ คณะกรรมการ NBA ยังสั่งแบนรองเท้าสีนี้เนื่องจากเป็นโทนสีที่ขัดต่อกฎการแต่งกายที่ต้องเป็นสีที่เข้ากับชุดและเข้ากับเพื่อนร่วมทีม(มีข้อมูลบางส่วนอ้างว่ารองเท้ารุ่นที่ NBA เห็นและสั่งแบนจริงๆ คือ Nike Air Ship สีเดียวกัน) และปรับ MJ เป็นเงิน 5,000 ดอลลาร์ทุกครั้งที่ใส่มันลงสนาม ซึ่ง Nike ก็ยินดีจ่ายและใช้โอกาสนี้ในการโปรโมทรองเท้ารุ่นดังกล่าวไปในตัว โดยมีนัยยะว่าผู้ที่ได้สวมใส่มันคือผู้ที่ไม่ยอมรับการแบนของ NBA อยู่กลายๆ (ต่อมาภายหลังมีการออกรุ่นพิเศษ Banned Air Jordan I ออกมาเพื่อเป็นที่ระลึกและประชดโดยเฉพาะอีกด้วย)


เมื่อ Air Jordan I วางจำหน่ายในปีต่อมาจึงประสบความสำเร็จด้านยอดขายอย่างงดงาม


หลังจากนั้น Nike จึงออกแบบสี “Black Toe” และ “Chicago” ที่มีสีขาวมาร่วมผสมเข้าไปกับสีแดงและสีดำให้ MJ ใส่ลงสนามช่วงปี 1985-1986 ฟอร์มการเล่นของ MJ อันยอดเยี่ยมตอนที่ใส่รองเท้ารุ่นนี้ก็ยิ่งทำให้มันเป็นที่ต้องการมากขึ้น ทั้งตอนลงแข่งดังค์ครั้งแรกใน Slam Dunk Contest ปี 1985 และทำผลงานการดังค์ได้อย่างงดงาม(แถมยังใส่ทอง 2 เส้น อีกด้วย)แม้ว่าจะพลาดแชมป์รายการนี้ไปก็ตาม ในปีเดียวกัน MJ ได้รางวัล Rookie of The Year และตอนทำ 63 แต้มในการแข่ง playoff กับ Boston Celtics ที่ทำให้ Larry Bird ถึงกับขนานนาม MJ ว่าเป็น “พระเจ้าที่สวมใส่รองเท้าบาสฯ” เลยทีเดียว





















ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้